10 เรื่องราวในเกมที่ให้แง่คิดกำลังใจคนที่ท้อ


ไม่มีใครที่มีความสุขอยู่ตลอดเวลา และคงไม่มีใครมีความทุกข์ได้ตลอดไป เป็นคำคมที่ให้แรงบันดาลใจกับคนที่กำลังท้อแท้ได้เป็นอย่างดี เพราะชีวิตของมนุษย์ทุกคนนั้นต่างก็มีทั้งเรื่องดีเรื่องแย่ปะปนกันไป การให้กำลังใจคนที่กำลังท้อแท้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรทำ ไม่ว่าจะเป็นกับเพื่อนคนรู้จักหรือใครก็ตามที่กำลังท้อแท้เหนื่อยล้า ยิ่งคนที่เล่นเกมการปลอมใจแบบธรรมดาทั่วไปอาจจะไม่เพียงพอ วันนี้เราเลยขอนำเสนอเกมที่เป็นตัวอย่างให้เรามีกำลังใจสู้ต่อไป จะมีเกมอะไรที่เป็นกำลังใจได้นั้นมาดูกันเลย

คำเตือน เนื้อหาในทบความมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วนในเกมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

เป้าหมายมีไว้พุ่งชนจากเกม Twisted Metal


เชื่อว่าทุกคนเมื่อลงมือหรือต้องการอะไรแล้วทุกคนต่างต้องมีเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานเรื่องความรักการใช้ชีวิตหรือแม้แต่การเล่นเกม ที่เราต่างก็มีเป้าหมายในการเล่นไม่ว่าจะเล่นเพื่อความสนุกเล่นเพื่อเกมถ้วยรางวัลต่าง ๆ เล่นเพื่อให้จบเกม ซึ่งแน่นอนว่าการไปถึงเป้าหมายนั้นบางครั้งมันก็ยากเหนื่อยจนเรารู้สึกท้อแท้สิ้นหวังจนไม่อยากทำต่อ การเดินเข้าไปบอกคนเหล่านั้นด้วยประโยคสั้น ๆ ว่าเป้าหมายมีไว้พุ่งชนแล้วเอาเกม ‘Twisted Metal’  ไปให้เขาเล่น หรือส่งวิดีโอตัวเกมให้คนที่ท้อดูพร้อมประโยคนี้อาจจะช่วยได้ ถ้าใครที่ไม่รู้จักเกม ‘Twisted Metal’ คือซีรีส์เกมที่ให้เราเลือกรถ (หรือบางทีก็ดูไม่ค่อยเหมือนรถ) เพื่อลงแข่งขันสู้กันในสนามด้วยอาวุธต่าง ๆ ที่มีเพื่อคนหาผู้อยู่รอดคนสุดท้าย และที่เห็นแบบนี้ตัวเกมก็มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้น กับเป้าหมายของทุกตัวละครที่ต้องการชนะการแข่งขันครั้งนี้ และเมื่อทุกคนมีเป้าหมายพวกเขาและเธอเหล่านั้นก็พยายามเต็มที่ เหมือนกับเราที่ก็มีเป้าหมายในการไปให้ถึงหรือทำให้ได้ ดังนั้นเป้าหมายจึงมีไว้พุ่งชนเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ฆ่ามัน


อดีตทุกคนล้วนเคยผิดพลาดแต่เราก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ God of War

ไม่มีใครที่ไม่เคยผิดพลาด ทุกคนล้วนเคยผ่านเรื่องแย่ ๆ การเลือกทางผิดหรือทำสิ่งที่ผิดมาแล้ว จนเราที่เป็นคนทำหรือได้รับผลกระทบก็คงรู้สึกแย่เมื่อคิดถึงมัน จนกลายเป็นตราบาปหรือความกลัว ทำให้หลายคนไม่กล้าจะเดินต่อไป หรือเมื่อเจอเรื่องที่คล้าย ๆ กับอดีตก็จะกลัวว่าความผิดพลาดนั้นจะตามมาหลอกหลอน หรือสิ่ง ๆ นั้นก็ยังคงเกาะติดอยู่ในใจไม่มีทางแกะออก อย่างที่ตัวละครเกม ‘The Last of Us’ ทั้งสองภาคต้องเจอ จนกลายเป็นว่าเรานั้นกลายเป็นคนขี้กลัวจนชีวิตย่ำอยู่กับที่ ถ้าคุณเห็นคนที่เป็นแบบนี้หรือแม้แต่ตัวคุณเองที่เป็น เราก็ขอแนะนำเกม ‘God of War’ มาเป็นตัวอย่างในเรื่องนี้ ซึ่งถ้าคุณเคยเล่นเกมในซีรีส์ ‘God of War’ มาก่อนตั้งแต่ภาคแรกมาจนถึงภาคล่าสุดบนเครื่อง ‘PlayStation 4’ คงจะทราบดีว่าตัวของ เครโทส (Kratos) นั้นมีอดีตที่ไม่สามารถลบลืมไปได้ นั่นคือการสังหารลูกเมียตัวเอง ที่แม้เขาจะรู้แก่ใจว่าสิ่งนั้นคือการถูกควบคุม แต่ตราบาปทั้งหมดก็เริ่มมาจากการทำสัญญากับเทพแห่งสงคราม จนการล้างแค้นเหล่าเทพบานปลายจนเกือบทำโลกล่มสลาย มนุษย์ล้มตายโลกขาดสมดุล แต่สิ่งที่เครโทสเลือกทำคือการเดินหน้าต่อไป แน่นอนว่าอดีตของเขาไม่มีวันลบไปได้ บาดแผลที่เคยมีอาวุธที่ใช้ความผิดที่ตามหลอกหลอน แต่เรายังมีชีวิตอยู่และยังคงจดจำความทุกข์นั้น แต่ทุกคนก็มีโอกาสเริ่มต้นใหม่เสมอเหมือนที่เครโทสทำ เราสามารถแบกความทุกไปพร้อมกับการเริ่มต้นใหม่ได้เสมอตราบที่เรายังมีลมหายใจ

การแก้แค้นไม่ได้ช่วยให้เราหายแค้นการปล่อยวางต่างหากคือทางออกจากเกม The Last of us part ll

คำว่าแก้แค้นความแค้นในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความแค้นชนิดที่เรียกว่าต้องฆ่ากันให้ตาย หรืออยู่ร่วมโลกกันไม่ได้เหมือนในเกม ‘The last of us part ll’ แต่เราหมายถึงการปล่อยวางและให้อภัยกับคนที่ทำร้ายเราทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่เชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะต้องเคยโดนคนที่รักหรือคนที่ไว้ใจหักหลังโกง หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงานที่ไม่ชอบหน้าเรา เพื่อนร่วมห้องเรียนที่นินทาเราใส่ร้ายเราในเรื่องเสีย ๆ หาย ๆ จนเราก็เอาคืนโดยการนินทาหรือทำเขากลับด้วยการแสดงกิริยาตอบโต้คืนไปมา จนกลายเป็นความไม่พอใจใส่กันไม่มีสิ้นสุด ซึ่งมันไม่ทำให้เราหรืออีกฝ่ายมีความสุขหรือรู้สึกดีขึ้นมาเลยใช่ไหม แต่เมื่อคุณหยุดทำไม่สานต่อไม่ยุ่งไม่โกรธอีกฝ่าย แทนที่ฝั่งนั้นจะหยุดเหมือนคุณแต่มันกลับเป็นตรงข้าม เพราะทางนั้นจะคิดว่าเรากลัวเรายอมแพ้ จนกลายเป็นการข่มเรามากขึ้นไปอีก สิ่งที่เราควรทำนั้นก็เหมือนสิ่งที่ แอ๊บบี้ (Abby) ทำนั่นคือการเอาคืนไปบ้างถ้าเรื่องนั้นมันเกินเลย แต่พอถึงจุดที่เราชนะแล้วแทนที่เราจะเยอะเย้ยแต่เรากลับปล่อยไม่ว่าไม่สานต่อ แต่ถ้าเรื่องไหนมันเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่มีอะไรรุนแรงก็เฉย ๆ ไม่ต้องสนใจ และพยายามไม่ให้ผิดพลาดจนอีกฝ่ายหาเรื่องเดิม ๆ อีก ส่วนเรื่องนินทานั้นเราห้ามปากคนไม่ได้ อันไหนจริงก็ปรับปรุงอันไหนไม่จริงก็ปล่อยผ่าน อย่างเอาความทุกข์มาแบกเพราะเรามีงานมีหน้าที่ต้องทำ อย่าไปสนใจเสียงนกเสียงกาจะดีที่สุด


อนาคตที่ดีกับการทุ่มเททำงานก็ดีแต่จงอย่าลืมคนที่รักคุณจากเกม  Home Sweet Home

เรามักจะคิดเสมอว่าสิ่งที่เราทำนั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง และหลายครั้งสิ่งที่เราคิดว่าดีเราก็มักจะคิดว่าคนที่เรารักต้องมีความสุข อย่างติมในเกม ‘Home Sweet Home’ ที่ถ้าใครได้เล่นก็คงจะทราบดีว่าตัวของติมนั้นขยันขันแข็งทำงานขนาดไหน เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อการทำงานเพื่อให้เจนภรรยามีความสุข แต่นั่นคือสิ่งที่ติมคิดไปเองฝ่ายเดียว เพราะเจนนั้นไม่ได้ต้องการเงินทอง แต่เจนต้องการคนรักต้องการเวลาจากติมให้มาสนใจเธอบ้าง จนสุดท้ายความเหงาก็ชนะ จนเจนแอบไปมีอะไรกับดิวจนกลายเป็นเรื่องราวของเกม ซึ่งในส่วนของหัวข้อนี้ไม่ใช่การให้กำลังใจคนที่ท้อ แต่จะเป็นการเตือนสติเพื่อนร่วมงานหรือคนใกล้ตัว ที่ตอนนี้เขาหรือเธอเหล่านั้นกำลังขยันทำงานเรียนอย่างหนัก หรือกำลังติดเกมจนไม่มีเวลาใส่ใจคนที่รักที่กำลังเหงาอยู่ให้รู้ตัว เพราะสุดท้ายผลที่ตามมามันก็ไม่ใช่จะจบลงที่คนที่เรารักไปมีคนอื่น แต่มันอาจจะหมายถึงความเบื่อหรือไม่พอใจจนขอลาไปจากเรา สิ่งที่เราควรทำคือการยกตัวอย่างเกม ‘Home Sweet Home’ ให้เขารับรู้ว่าสิ่งที่คุณทำนั้นเป็นการหวังดีก็จริง แต่การหวังดีก็ควรดูด้วยว่าคนที่รับเขาจะอยากได้หรือไม่ หรือถ้าหยุดไม่ได้ก็ควรแบ่งเวลาให้คนที่เรารักบ้าง  ซึ่งไม่ใช่แค่คนรักแต่รวมถึงครอบครัวสัตว์เลี้ยงเพื่อน ๆ ก็อยู่ในส่วนนี้เช่นกัน ถ้าใครที่ได้อ่านและพบว่าคนที่รู้จักหรือตัวเองกำลังเป็นอยู่ก็รีบเปลี่ยนแปลงซะตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป


เราย้อนเวลาไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่เราสามารถคิดถึงผลที่จะตามก่อนลงมือทำได้ Timelie


เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้ แต่เราสามารถกำหนดอนาคตได้จากการกระทำในปัจจุบัน  นั่นคือหนึ่งในคำให้กำลังใจและเตือนสติได้ทั้งตัวเราเองและคนที่กำลังท้อแท้ เมื่อทำในสิ่งที่ผิดพลาดลงไปทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว และแน่นอนว่าสิ่งที่เราทำไปแล้วนั้นเราคงจะย้อนเวลาไปแก้ไขแบบในเกม ‘Timelie’ ไม่ได้ เพราะเมื่อเราผิดแล้วเราก็จะต้องรอรับผลนั้น ๆ อย่างเต็มใจ ซึ่งคนที่เจอแบบนี้ก็อาจจะท้อแท้หรือกลัวการที่จะเดินหน้าต่อไป เพราะกลัวว่ามันจะผิดพลาดซ้ำอีก ซึ่งถ้าเราจะเปรียบเทียบเรื่องราวในชีวิตกับเกม ‘Timelie’ สำหรับคนที่ไม่รู้จัก เกมนี้คือเกมฝีมือคนไทย เราจะได้รับบทเป็นสาวน้อยผู้มีพลังจิตที่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดจากการเล่นของเราได้ ซึ่งสิ่งที่เกม ‘Timelie’ บอกเราเกี่ยวกับเวลาก็คือ เราสามารถล่วงรู้อนาคตได้ในสิ่งที่เราจะลงมือทำได้ เช่นถ้าคุณเลือกรับงานชิ้นนี้หรือเรียนสาขานี้วิชานี้ ถ้าคุณมีสติมีเวลาคิดทบทวนและคิดถึงสิ่งที่มันจะตามมา ว่าเราจะทำงานนี้ไหวไหมต้องทำอย่างไรใช้เวลาแค่ไหนต้องใช้งบประมาณเท่าใด หรือการเรียนวิชานี้คุณจะเรียนไหวไหมมีเพื่อนร่วมวิชาที่ช่วยได้ไหม ถ้าคุณคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าและคิดถึงผลที่จะตามมา เช่นเราคงไม่มีเวลาทำงานนี้ทันแน่ ๆ เพราะมันข้องข้างใช้เวลาและอาจจะทำให้เราพลาดงานอื่น ถ้าคิดแบบนี้เราก็จะมองเห็นอนาคตได้โดยที่ไม่ต้องมีพลัง ดีกว่าเรารับหรือเลือกไปแบบไม่คิดแล้วค่อยไปตายเอาดาบหน้า แบบนั้นผลสุดท้ายก็จะลงเอยด้วยความผิดพลาด นั่นคือสิ่งที่เกม ‘Timelie’ ต้องการบอกเรา


อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลงแต่จงเดินหน้าต่อไปจากเกม Oddworld Abe's Oddysee


เมื่อพูดถึงการเปลี่ยนแปลงเชื่อว่าหลายคนนั้นคงกลัวการเปลี่ยนแปลง อย่างการเลื่อนตำแหน่งย้ายโรงเรียนย้ายห้องไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างในชีวิต แบบที่เราเองก็ตั้งตัวไม่ทันแบบในเกม ‘Oddworld Abe's Oddysee’ ที่เริ่มต้นเรื่องราวที่แสนธรรมดาของ เอ็บ (Abe) พนักงานถูกพื้นที่แสนขยันขันแข็งของโรงงาน ‘RuptureFarms’ แปรรูปเนื้อสัตว์ขนาดใหญ่ใน Oddworld ที่ตัวของเอ็บนั้นจัดเป็นพนักงานดีเด่นที่ตัวเขาภูมิใจในหน้าที่นี้ของตนเองมาก ๆ  จนวันหนึ่งเขาไปได้ยินเจ้าของโรงงานคุยกันว่าเนื้อที่ใช้ทำอาหารกระป๋องสูญพันธุ์ไปแล้ว ต้องหาเนื้อใหม่และเนื้อที่เจ้าของโรงงานเลือกก็คือเนื้อของพวกทาสในโรงงาน เขาจึงต้องเปลี่ยนจากพนักงานถูพื้นมาเป็นผู้กล้ากู้เผ่าพันธุ์ โดยการช่วยเพื่อน ๆ ให้รอดจากการเป็นอาหารกระป๋อง ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบกับในชีวิตจริงการเปลี่ยนแปลงนั้นก็ไม่ได้น่ากลัวหรือถึงชีวิตแบบในเกม ‘Oddworld Abe's Oddysee’ แต่คนเรามักจะรู้สึกปลอดภัยกับสิ่งที่ตัวเองรู้และเข้าใจ ซึ่งมันต่างกับความพยายามเพื่อจะได้มันมา ที่อันนี้เราคาดหวังการเปลี่ยนแปลง แต่การเปลี่ยนแปลงแบบไม่คาดหวังทั้งเรื่องดีเรื่องร้าย เมื่อต้องพบเจอสิ่งที่เราควรทำก็คือมีสติ ถ้าตกงานแทนที่จะร้องไห้ฟูมฟายสู้เอาเวลานั้นไปคิดว่าจะหางานอะไรทำต่อไป  หรือการเริ่มงานในที่ใหม่แบบกะทันหัน เราก็ต้องเตรียมปรับตัวเตรียมเจอผู้คนใหม่ ๆ และอะไรหลาย ๆ อย่าง เราสามารถกลัวได้ท้อได้แต่เราก็ควรรีบลุกขึ้นนั่นคือสิ่งที่เกม ‘Oddworld Abe's Oddysee’ บอกกับเรา


ทุกอย่างมีผลตามมาเสมอจากเกม Until Dawn


อีกหนึ่งการเตือนสติที่บอกได้ทั้งตัวเองและคนอื่น กับคำพูดที่ว่าทุกสิ่งที่เราทำนั้นจะมีผลตามมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่เรื่องดีเรื่องร้าย เหมือนกับในเกม ‘Until Dawn’ หรือเกมแนว ๆ เดียวกันกับสิ่งที่เราเลือกนั้นจะส่งผลกับการกระทำเสมอ ไม่ว่าจะเลือกไปซ้ายหรือขวา ฆ่าหรือไว้ชีวิต ช่วยหรือไม่ช่วย ที่ในชีวิตจริงเราอาจจะไม่เจอฆาตกรโรคจิตหรือสัตว์ประหลาดไล่ฆ่าแบบในเกม แต่ในชีวิตเราสิ่งที่เราทำมันก็มักจะมีผลตามมาตลอดทุกอย่าง แค่เราอาจจะไม่รู้ หรือบางทีก็ลืมไปแล้วว่าเคยทำไปทั้งเรื่องดีเรื่องร้าย อย่างการช่วยคนอื่นเอาไว้แล้วเขามาช่วยคืน หรือเราไปว่าคนอื่นเอาไว้จนเขาเกลียดเรามันก็คือสิ่งเดียวกัน ประเด็นก็คือตัวของเรานั้นสามารถเลือกเส้นทางได้เหมือนกับในเกม ‘Until Dawn’ ได้ แค่เราอาจจะไม่รู้ตัว อย่างการเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ จะพูดแบบไหนเพื่อให้อีกฝ่ายฟังหรืออ่านแล้วรู้สึกดี นั่นคือการเลือกที่เราจะต้องใช้สติ หรือหยุดคิดช่วงเวลาหนึ่งเพื่อเลือกเส้นทางที่ถูก ไม่ใช่ตอบไปทันทีหรือพูดไปแบบไม่คิด หรือที่หนักกว่านั้นคือตอบไปด้วยอารมณ์ที่อาจจะโมโหไม่ทันคิด หรือทำลงไปแบบไม่มีสติ ซึ่งผลที่ตามมาจากการทำอะไรแบบนั้นมันมักจะส่งผลแย่ออกมา  ดังนั้นสิ่งที่เราจะบอกคือจงมีสติและคิดถึงอีกฝ่ายมากกว่าตัวเอง เช่นถ้าพูดแบบนี้เขียนแบบนั้นลงไปอีกฝ่ายอาจไม่พอใจจนส่งผลเป็นลูกโซ่ตามมา แต่ถ้าเราหยุดคิดก่อนตอบเราจะพบทางเลือกมากมายกว่าที่เราคิด และคุณจะค้นพบหนทางที่ดีจากการคิดก่อนกระทำ


ค้นหาตัวตนส่วนลึกของตนเองให้เจอและกำจัดมันซะจากเกม Persona 4 Golden

คำว่าค้นหาตัวตนส่วนลึกในจิตใจในที่นี้หมายถึงการอยู่กับตัวเอง การนั่งเงียบ ๆ ในห้องและคิดถึงตัวเองนึกถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาทั้งเรื่องงานเรื่องการใช้ชีวิตเรื่องผู้คน ลองถามตัวเองว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นมันโอเคอยู่ไหม สิ่งที่เราทำในตอนนี้กับเพื่อนร่วมงานกับเพื่อนในชั้นเรียนหรือกับพ่อแม่ที่บ้านเราทำตัวอย่างไร และพวกเขานั้นปฏิบัติตัวกับเราแบบไหนดีกับเราดีหรือร้ายด้วย  ถ้าร้ายด้วยเพราะอะไร เราไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจจนเขาไม่ชอบเรา หรือเราไปพูดอะไรไม่ดีออกไปแบบไม่คิด คราวหน้าถ้ามีโอกาสก็จะไม่ทำอีกอะไรแบบนั้น นั่นคือการค้นหาตัวเองที่เรียกว่าการทำสมาธิ ที่ถ้าจะให้พูดแบบเห็นภาพก็คือการต่อสู้กับ Persona ของตัวเองในเกม ‘Persona 4 Golden’ สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกม ‘Persona 4 Golden’ จะเป็นเกมแนว ‘JRPG’ ที่เราต้องใช้ชีวิตประจำวันเพื่อหาข้อมูลในการช่วยเหลือผู้คนที่ถูกฆาตกรโรคจิตดูดเข้าไปในโลกทีวี ซึ่งถ้าคน ๆ นั้นหลงไปในโลกทีวีเขาจะเจอกับ Shadow หรือจิตใจด้านมืดของตัวเอง ที่เป็นเหมือนจิตใจอีกด้านที่ดำมืดของตัวเอง เมื่อเราพบด้านมืดตัวเองมันจะพูดทับถมเราในความผิดพลาดเรื่องแย่ ๆ สิ่งที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ จนโทษตัวเอง ให้เราจมดิ่งอยู่ในห้วงของคำลวงที่เราไม่มีทางยอมรับ เมื่อเราเถียงและต่อต้านเจ้าจิตใจด้านมืดก็ยิ่งเข้มแข็งและสุดท้ายมันก็จะจับเรากิน แต่ถ้าคุณยอมรับข้อเสียนั้นและรู้ว่ามันคือตัวคุณ และพร้อมจะแก้ไขจิตดำมืดนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นพลังที่เรียกว่า ‘Persona’ ซึ่งนั่นคือการยอมรับตัวตนความผิดพลาดของตนเองและแก้ไข ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อตัวของคุณเอง


เพื่อนมีทั้งดีและแย่แต่เราควรมองแต่เพื่อนดี ๆ เอาไว้ดีกว่าจากเกมแนว Online

ในทุกการเข้าสังคมการใช้ชีวิตของมนุษย์นั้น คุณต้องรู้จักคนมากมายเข้ามาในชีวิต ทั้งเจ้านายคนรู้จัก เพื่อนร่วมงาน เพื่อนเรียน หรือแม้แต่เพื่อนที่ไม่เคยเห็นตัวตนจริง ๆ อย่างในโลกออนไลน์ แต่นั่นก็คือสังคมที่คุณต้องเจอและไม่สามารถหนีได้ และเมื่อเข้าสังคมก็ต้องมีทั้งคนที่รักสนับสนุนเป็นเพื่อนที่ดีของคุณ และมันต้องมีคนที่ไม่ชอบคุณเกลียดคุณไม่พอใจในสิ่งที่คุณทำ ซึ่งเรื่องหลังนั้นมักจะมีหลายแบบ ทั้งแบบแสดงตัวอย่างเปิดเผยเลยว่าฉันไม่ชอบแก กับแบบที่ต่อหน้าพูดดีแต่ลับหลังนินทาใส่ร้ายและยุแยง ซึ่งคุณที่เป็นคนโดนก็ต้องมีรู้สึกแย่รู้สึกไม่ดีเมื่อเจอคนแบบนั้นทำร้ายจนคุณรู้สึกท้อแท้ แบบในเกมออนไลน์ที่ถ้าคุณเลือกเพื่อนผิดไม่ตรงตามภารกิจ หรือทำหน้าที่ไม่ตรงตามที่ทีมต้องการก็อาจจะทำให้เกมไม่ผ่าน สำหรับเกมที่เราจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ก็คือเกมแนวออนไลน์ที่เราสามารถเลือกเพื่อนที่รู้จักมาเล่นด้วยกัน หรือแม้แต่เพื่อนใหม่ที่มาแบบเป็นทีมที่เกมคัดมาให้เรา ซึ่งถ้าโชคดีเจอคนเล่นที่รู้งานว่าต้องทำอะไรก็จะทำให้เกมสนุกเล่นเพลินจนเกิดเป็นพลังมิตรภาพ และเช่นกันการเล่นแนวนี้มันต้องเจอคนที่เล่นไม่เก่งจนกลายเป็นตัวถ่วงทีม (หรือเราเองนั่นละที่เป็น) แต่นั่นก็ยังน้อยกว่าคนที่เป็นตัวถ่วงโยงเกมแกล้งเพื่อนร่วมทีมไม่ช่วยสู้ ก็เหมือนในชีวิตจริงที่เราต้องเจอคนหลาย ๆ แบบที่เขามา  สิ่งที่เราควรมองก็คือเพื่อนที่ดีคนที่ดีมากกว่าจะไปมองในส่วนของคนที่แย่ ยกตัวอย่างคนที่ดีกับเรา 10 คนแต่คนที่แย่กับเรามีแค่ 2 คนเราจะเอาเวลาไปสนใจสองคนทำไม ในเกมก็เช่นกันการเล่นเกมมันต้องมีทั้งคนดีคนแย่ปน ๆ กันไปอย่างไปสนใจ เราแค่ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ ถ้าเราดีจริงเดี๋ยวคนที่มันแย่คนที่ทำร้ายเราก็จะแพ้ภัยตัวเองไปอย่างแน่นอน


จงขยันและอดทนที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาจาก Nintendo


 จงขยันและอดทนที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโชคชะตา หนึ่งในคำกล่าวที่อดีตประธาน Nintendo’  ฮิโรชิ ยามาอุจิ (Hiroshi Yamauchi) ได้กล่าวเอาไว้ ซึ่งถ้าเราเอาสิ่งที่ท่านประธานพูดมาคิดตามมันก็เป็นความจริง เพราะสิ่งที่ทาง ‘Nintendo’ ทำนั้นคือการทุ่มเทพัฒนาเกมต่าง ๆ ให้ออกมาสนุกน่าติดตาม จนเรากล้าพูดได้เลยว่าทุกเกมที่แปะชื่อ ‘Nintendo’ คือเครื่องยืนยันความสนุกของเกมนั้น ๆ แต่ก็มีหลายครั้งที่ ‘Nintendo’ พลาดหกล้มที่แม้จะพยายามมาอย่างหนักก็ตาม ซึ่งใครที่ได้ติดตามข่าวสารวงการเกมมาตลอดคงจะทราบดีว่าทาง ‘Nintendo’ นั้นเคยผิดพลาดมามากมายหลายครั้ง แต่สุดท้ายในการไม่ยอมแพ้ทางค่ายก็กลับมายืนในตลาดได้อีกครั้ง เหมือนในชีวิตเราที่ก็เหมือนคำที่ท่านประธานกล่าวเอาไว้ ว่าการทำงานขยันอดทนมันดีก็จริง แต่บางคนก็ไม่ได้รับการตอบแทนจากการทุ่มเทนั้น บางคนขยันทำงานมาตลอดแต่กลับไม่เคยได้เลื่อนตำแหน่ง หรือเลวร้ายหน่อยก็ตกงานไปเลย ขณะที่เพื่อนร่วมงานอีกคนที่อาจจะทำงานน้อยกว่าแต่กลับได้เลื่อนตำแหน่ง ซึ่งนั่นก็คือโชคชะตาที่เราไม่สามารถกำหนดได้ และสิ่งที่เราต้องการจะบอกคุณไม่ใช่ให้หยุดพยายาม แต่จะบอกว่าจงพยายามแข็งแข็งอดทนต่อไป และปล่อยให้โชคชะตาเป็นตัวกำหนด อนาคต เพราะถ้าคุณคือเพชรต่อให้อยู่ในโคลนตมในกองอึที่เหม็นเน่าคุณก็คือเพชร แค่ยังไม่มีคนมองเห็นคุณเท่านั้น ดังนั้นถ้าขยันอยู่แล้วก็ขยันต่อไป ที่เหลือก็ไม่ต้องไปสนใจมันปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาไป เพราะสุดท้ายผลที่ตอบแทนกลับมาจากการขยันทำความดี มันต้องมีคนเห็นแน่นอน


ก็จบกันไปแล้วกับ 10 ข้อคิดให้กำลังใจคนที่กำลังท้อ หรือต้องการปลอบใจคนที่กำลังท้อ  เพราะบางครั้งเราที่เป็นคนเล่นเกมอาจจะพูดเขียนปลอบใจคนไม่เก่ง หรือสิ่งที่เราต้องการพูดเขียนปลอบใจนั้นคนที่เล่นเกมอาจจะไม่เข้าใจ ดังนั้นเราจึงยกเกมที่เราเล่นมาเป็นต้นแบบในการเข้าถึง ให้คนเล่นเกมจะได้เห็นภาพเข้าใจง่ายขึ้น และเราก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คนที่กำลังท้อมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง ยิ่งในช่วงนี้ที่ทุกอย่างช่างดูวุ่นวายไปหมด สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือขยันและอดทนทั้งการเรียนการทำงาน เพื่อเอาชีวิตรอดในสังคมตอนนี้ ท้อได้แต่อย่าถอยสู้กันต่อไปทาเคชิขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น