คุณว่าผีมีอยู่ทุกที่ไม๊ประมาณว่าเราสามารถเจอผีได้ตลอดเวลาแต่เราอาจจะไม่รู้ว่านั่นคือผี เพราะบางทีผีก็อาจจะมาในรูปแบบของคนธรรมดาที่เราเห็นแต่เราไม่รู้ว่านั่นคือผี หรือบางทีผีเองนั่นละที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายไปแล้วและยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมอยู่ นั่นคือสิ่งที่อาจารย์โบว์อดีตนักเรียนเก่าบอกกับพวกเราที่กำลังนั่งเรียนวิชาจิตรกรรมที่ห้องศิลปะที่อยู่เป็นอาคารเก่าตั้งแต่อดีตที่ตอนนี้ก็ยังคงถูกใช้เป็นที่สอน ซึ่งระหว่างที่เรากำลังตั้งหน้าตั้งตาวาดรูปปั้นเดอะติงเกอร์หรือรูปปั้นคนนั่งคิดอยู่ในห้องชมรม อาจารย์โบว์ที่กำลังดูและสอนพวกเรานั่งสเก็ตภาพอยู่ จู่ๆ อาจารย์แกก็เริ่มเล่าเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับที่นี่ให้ชั้นกับเพื่อนๆ ในชมรมฟัง ว่าในอดีตที่นี่เคยมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น สมัยที่อาจารย์ยังเป็นนักเรียนแบบพวกชั้นในตอนนี้ อาจารย์โบว์บอกว่าที่ห้องนี้ในอดีตมีอาจารย์คนนึงที่ชื่ออาจารย์วินัยแขวนคอตายในห้องนี้ตรงกลางห้องตรงจุดเดียวกับรูปปั้นนักคิดที่เรากำลังวาดอยู่ และอาจารย์โบว์ยังบอกอีกว่าก่อนที่อาจารย์วินัยคนนั้นจะแขวนคอตาย อาจารย์แกได้มีอะไรกับลูกศิษย์ตัวเองจนเมื่อทางผู้หญิงท้องและต้องการให้อาจารย์รับผิดชอบ ทางอาจารย์วินัยก็ฆ่าผู้หญิงคนนั้นทิ้งและจับเธอมาเป็นฐานของรูปปั้นวีนัสขนาดใหญ่ ที่อาจารย์โบว์ก็อธิบายการทำรูปปั้นนั้นอย่างละเอียดจนชั้นกับเพื่อนๆ ที่กำลังตั้งสมาธิกับการวาดรูป ต้องมานั่งคิดภาพว่าตอนนั้นอาจารย์วินัยทำอย่างไรกว่าจะได้รูปปั้นวีนัสที่เคยตั้งอยู่ในนั้นนานนับแรมปี จนเมื่อความจริงเรื่องรูปปั้นเปิดเผยขึ้นมาเพราะความบังเอิญอาจารย์วินัยเลยฆ่าตัวตาย และในบางครั้งก็มีคนเห็นอาจารย์วินัยมาเดินไปเดินมาในห้องนี้เหมือนกับว่าตัวเองกำลังทำงานอยู่โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายไปแล้ว
ชั้นที่สงสัยเลยยกมือถามอาจารย์โบว์ว่า
“แล้วอาจารย์ใช้ห้องนี้ไม่กลัวผีอาจารย์วินัยหรอคะ” อาจารย์โบว์ก็บอกว่าไม่กลัว
ตรงข้ามอาจารย์วินัยที่เป็นผีต้องกลัวอาจารย์มากกว่านั่นคือสิ่งที่อาจารย์โบว์บอกกับชั้น
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าที่อาจารย์บอกหมายถึงอะไร แต่จะว่าไปชั้นก็เคยได้ข่าวลือมาว่าอาจารย์โบว์กับอาจารย์กิ๊บที่เป็นศิษย์เก่าของที่นี่ก็เคยเจอเรื่องราวแปลกๆ
มา และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ชั้นได้ยินเรื่องราวนี้จากปากอาจารย์เอง ที่ก็ไม่รู้ว่าทำไมอาจารย์ถึงเล่าให้ฟัง
หรือจะเป็นเพราะอาจารย์ต้องการให้พวกเรากระจายข่าวของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในนี้ให้คนอื่นๆ
ฟังเพราะช่วงนี้เริ่มมีคนพูดว่าในโรงเรียนเรามีเรื่องประหลาดอย่างตำนานโรงเรียนเกิดขึ้นมา
หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของอาจารย์ปริศนาที่อยู่ในห้องศิลปะนี้
และมันก็เกี่ยวกับอาจารย์โบว์และอาจารย์กิ๊บที่มีส่วนร่วมในตำนานนี้ จนหลายคนลือว่าอาจารย์สองคนเคยจับอาจารย์ที่เป็นคนร้ายจนเขาฆ่าตัวตาย
ที่พอชั้นได้ฟังจากปากอาจารย์โบว์เองก็ทำให้รู้ว่าตำนานที่เขาว่ามาคือความจริง
หลังจากหมดชั่วโมงศิลปะชั้นกับเพื่อนๆ
อีกสามคนก็มาสุมหัวกันเมื่อได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นในห้องศิลปะว่ามันเป็นความจริง
เพราะก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่ามีนักเรียนหลายต่อหลายรุ่นต่างเล่าต่อๆ
กันว่าวันดีคืนดีเราจะเห็นผู้ชายคนนึงในห้องศิลปะ
ซึ่งเขาคืออดีตอาจารย์ที่แขวนคอตาย ที่ก่อนหน้านี้เรื่องนี้ก็เป็นแค่ตำนานโรงเรียนที่เล่าต่อๆ
กันมา แต่พอมีคนไปเจออาจารย์คนนั้นจริงๆ จนพวกเราที่มาได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากอาจารย์โบว์ด้วยความบังเอิญ
พวกเราทั้งสี่คนจึงตกลงกันว่าคืนนี้จะมาล่าท้าผีกันด้วยการถ่ายคลิปผีให้ได้
เพราะพวกเราทั้งสี่คนนั้นในตอนปกติก็คือนักเรียนธรรมดา
แต่ในโลกอินเทอร์เน็ตนั้นพวกเราคือนักล่าท้าผีทีมพิเศษ ที่เพิ่งจัดตั้งมาได้ไม่ถึงอาทิตย์
เมื่อพวกเราได้ยินข่าวว่ามีคนเจอผีอาจารย์ในห้องศิลปะ พวกเราทั้งสี่คนที่เรียนวาดรูปในนั้นพอดีเลยเกิดสนใจเรื่องนี้เลยรวมกันตั้งกลุ่มล่าท้าผีนี้ขึ้นมา
เพื่อจะถ่ายคลิปผีอาจารย์วินัยให้ได้ ซึ่งถ้าพวกเราสามารถถ่ายผีตัวนั้นได้จริงๆ
พวกเราก็จะได้รับการยกย่องจากทุกคนในโรงเรียนจนมีชื่อเสียง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เหล่าเด็กเนิร์ดอย่างเราต้องการ
และคนที่เป็นหัวเรือในการตั้งชมรมล่าท้าผีครั้งนี้ก็คือสิน ที่พอมีข่าวลือเรื่องผีในห้องศิลปะสินก็บอกว่าพ่อของตัวเองคือหนึ่งในคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นพร้อมกับอาจารย์กิ๊บ
เรียกว่าโชว์ดีสองชั้นก็ได้ที่อาจารย์โบว์จู่ๆ มาเล่าเรื่องนี้ให้พวกเราฟัง
ที่เมื่อตกลงกันเรียบร้อยพวกเราทั้งสี่คนที่มีชายสองหญิงสองคนที่มารวมตัวกัน จึงนัดกันว่าคืนนี้จะเข้ามาในโรงเรียนเพื่อมาถ่ายวิดีโอเกี่ยวกับอาจารย์วินัยมาเปิดเผย
โดยเราจะทำการไลฟ์สดที่เป็นแบบเดียวกับที่รายการล่าท้าผีต่างๆ
ในยูทูปทำกันเพื่อโปรโมทตัวเอง ที่ถ้าคลิปนี้เป็นไปได้สวยพวกเราก็จะมีคลิปต่อๆ
มาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เราต้องทำคลิปแรกให้ได้ก่อน
เพราะในตอนนี้ก็มีข่าวลือว่ามีนักเรียนอีกกลุ่มก็อยากทำคลิปล่าท้าผีเหมือนของเราที่ถือเป็นคู่แข่งได้เหมือนกัน
และเมื่อเป็นอย่างนั้นเราจึงต้องรีบทำก่อนเพื่อแย่งซีนมา
ชั้นที่ขอแม่ว่าคืนนี้จะนอนบ้านฟ้าหนึ่งในเพื่อนที่ชมรมล่าท้าผี
ก็เตรียมอุปกรณ์อย่างไฟฉายโทรศัพท์มือถือก่อนจะมาที่บ้านของฟ้าที่เป็นร้านขายของ
ที่เมื่อชั้นมาถึงก็เห็นเจ๋งสินและฟ้ารอชั้นอยู่ที่บ้านแล้ว
พวกเราทั้งสี่คนจึงเริ่มการล่าท้าผีทันทีด้วยการเดินทางไปที่โรงเรียนตอนกลางคืน
ที่เราทุกคนต่างทราบดีว่าในตอนกลางคืนนั้นทางโรงเรียนจะปิดห้ามคนนอกเข้ามารวมถึงนักเรียนด้วย
พวกเราทั้งสี่คนจึงต้องแอบเข้ามาในช่องทางพิเศษที่เหล่าเด็กเกเรที่เป็นรุ่นพี่ได้เจาะกำแพงโรงเรียนเอาไว้
เพื่อใช้ในการโดดเรียนที่ด้านหลังโรงเรียนซึ่งจะมีแค่นักเรียนเกเรไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เส้นทางนี้
และพวกเราก็เป็นหนึ่งในคนส่วนน้อยที่รู้
เมื่อเข้ามาในโรงเรียนตอนนี้ทุกอย่างนั้นดูเงียบสงบมากๆ
ทั้งที่ตอนปกติโรงเรียนจะมีแต่นักเรียนเดินไปมาและเสียงผู้คน
แต่พอมาเจอบรรยากาศเงียบๆ ในตอนกลางคืนก็เล่นเอาพวกเราแอบหลอนไปเหมือนกัน ชั้นกลืนน้ำลายตัวเองเล็กน้อยเพื่อรวบรวมความกล้า
ก่อนที่เจ๋งเพื่อในกลุ่มจะบอกกับพวกเราว่ามันมีอะไรแปลกๆ
เพราะตามปกติทางตรงนี้จะถูกปิดตลอดเวลา แต่ตอนที่พวกเรามาถึงช่องทางนี้ก็ถูกเปิดอยู่เหมือนมีคนเพิ่งใช้งานมา
จนสินบอกว่าอาจจะมีคนที่เปิดทิ้งไว้แล้วลืมปิดก็ได้อย่าไปใส่ใจกับเรื่องแบบนี้เลย
ส่วนฟ้าก็พูดในสิ่งที่น่าสนใจขึ้นมาว่าหรือจะเป็นคนอีกกลุ่มที่มาถ่านล่าท้าผีเหมือนเราก็ได้
ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเราทั้งสี่คนก็คงต้องรีบไปถ่ายคลิปผีเสียแล้ว
พวกเราทั้งสี่คนเดินจากหลังโรงเรียนมายังห้องศิลปะที่อยู่ด้านในของโรงเรียน
ที่ตรงส่วนนี้ไม่ค่อยมีคนสนใจมาเท่าไหร่ และยามที่เฝ้าที่นี่ก็เป็นเพียงลุงแก่ๆ
ที่วันๆ เอาแต่นอนในป้อมไม่ค่อยเดินตรวจ ซึ่งเจ๋งได้ไปหาข้อมูลมาเรียบร้อยแล้วพวกเราเลยเดินได้อย่างสะดวกจนมาถึงห้องชมรมศิลปะ
ที่ตอนนี้ในห้องนั้นมืดสนิทจะมีเพียงไฟจากเสาไฟข้างทางที่ให้ความสว่าง ที่เมื่อพวกเราทั้งสี่คนมาถึงก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
เพราะพวกเราคิดแค่ว่ามาถ่ายผีแต่ก็ไม่ได้เตรียมตัวว่าจะทำอย่างไรต่อไป
จนชั้นบอกกับเพื่อนๆ ว่าเราจะเริ่มต้นถ่ายคลิปตั้งแต่ตอนนี้โดยมีชั้นเป็นคนนำทีมเอง
โดยมีเจ๋งเป็นคนถ่ายวิดีโอถ่ายทอดสดไปยังเพจของพวกเราที่ตั้งขึ้นมาในเฟสบุ๊ค ก่อนที่พวกเราทั้งสี่คนจะแชร์วิดีโอนี้ไปยังเฟสของตัวเองเพื่อให้เพื่อนๆ
มาดู จนเมื่อเจ๋งนับสามสองหนึ่งชั้นก็เริ่มพูดกับกล้องว่า “สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน
ชั้นยังยี้นักเรียนชั้น ม.2/7 กำลังมาล่าท้าผีเกี่ยวกับตำนานของอาจารย์วินัยที่เราได้ข้อมูลมาว่าอาจารย์คนนี้เขาฆ่าตัวตาย
เพราะต้องการหนีความผิดเรื่องที่ทำนักเรียนคนนึงท้องและฆ่าเธอคนนั้นตาย
จนเมื่อความจริงเปิดเผยอาจารย์วินัยก็ฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด จนมีคนเห็นอาจารย์วินัยเดินไปมาในห้องศิลปะเหมือนกับว่าเขาไม่รู้ตัวว่าตัวเองตายไปแล้ว” และในระหว่างที่ชั้นกำลังพูดฟ้าก็กระซิบบอกว่ามีคนดูหลักพันคนเลยทีเดียวตอนนี้
และมีคนคอมเม้นบอกว่ามีผู้หญิงอยู่ข้างหลังชั้น
ที่เมื่อหันไปก็เห็นเด็กนักเรียนหญิงคนนึงเดินผ่านมา จนชั้นรีบวิ่งไปหาเธอคนนั้นทันทีขณะที่กล้องก็วิ่งตาม
“ยังไม่กลับบ้านหรอ” ชั้นถามหญิงสาวคนนั้น
นักเรียนคนนั้นส่ายหน้าและตอนนั้นเองที่อีกด้านหนึ่งของอาคารเรียนก็มีเสียงโวยวายออกมา
จนนักเรียนหญิงคนนั้นวิ่งไปโดยไม่สนใจพวกเราแม้แต้น้อย
ซึ่งพวกเราที่ได้ยินเสียงร้องนี้เราก็รู้ทันทีว่าต้องเป็นคนอีกกลุ่มแน่นอน
เมื่อเป็นอย่างนั้นพวกเราก็ต้องรีบแล้วด้วยการไปที่ห้องชมรมศิลปะทันที โดยที่ไม่สนใจเลยว่าเสียงนั้นจะร้องเพราะเจออะไร
เพราะถ้ายามได้ยินเราก็จะโดนจับไม่ด้วยพวกเราเลยไม่คิดไปดู


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น